ภาพการแข่งขัน | วีดีโอคลิป
สนาม เดอะ วัลลี่ย์, อังกฤษ
ผู้ชมในสนาม 25,422 คน
รายการ พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
เวลา 02.00 น. วันพฤหัสบดีที่ 24 สิงหาคม 2549
ผู้ตัดสิน คริส ฟอย
ประตูของดาร์เรน เฟล็ตเชอร์, หลุยส์ ซาฮา และโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ในครึ่งหลังส่งให้แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงรั้งอันดับหนึ่งของตารางด้วยผลงานเก็บชัยชนะสองนัดรวด
แม้ว่าเกมนี้ทีมจะต้องขาดเวย์น รูนี่ย์ และพอล สโคลส์ ไปเนื่องจากติดโทษแบนอย่างไม่อาจรับได้เป็นนัดแรกในจำนวน 3 นัด แต่แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ยังสามารถสร้างเกมบุกได้อย่างลื่นไหลนำไปสู่ประตูได้ในที่สุด
เกมนี้แกรี่ เนวิลล์ กัปตันทีมปีศาจแดงก็หมดโอกาสลงสนามอีกครั้งเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บที่น่อง ทำให้เฟอร์กี้ ตัดสินใจส่งบราวน์, ซิลแวสตร์, เฟอร์ดินานด์ และเอฟร่า ลงมาเป็นกองหลัง 4 คนของทีม
การขาดรูนี่ย์ และสโคลส์ ทำให้เกมนี้เป็นโอกาสของดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ และพาร์ค จีซุง ในขณะที่คาร์ริค ก็สามารถสร้างเซอร์ไพรส์ได้ด้วยการมีชื่อเป็นตัวสำรองในเกมนี้
ทางด้านชาร์ลตัน ก็ขาดสุดยอดกองหลังอย่างฌิมี่ ตราโอเร่ จากโทษแบนเนื่องจากโดนไล่ออกเมื่อนัดที่แล้ว ทำให้ทีมต้องส่งโจนาธาน ฟอร์จูน ลงมาเป็นตัวจริงแทน
ก่อนเกมมีฝนโปรยปรายลงมา ประกอบกับแมนฯ ยูไนเต็ด ขาดสองผู้เล่นสำคัญ ทำให้เกมนี้แมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มเกมได้ต่างจากนัดที่แล้ว คือไม่ได้เริ่มเกมหวือหวามากเท่าใดนัก
จิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลแบงค์ ได้โอกาสวอลเลย์เป็นจังหวะยิงครั้งแรกของเกมนี้จากนอกเขตโทษ แต่ก็ไม่ระคายเคืองแผงหลังของแมนฯ ยูไนเต็ด มากเท่าใดนัก
จากนั้นก็เป็นโอกาสแรกของแมนฯ ยูไนเต็ด บ้าง โดยที่พาร์ค จีซุง เทคตัวขึ้นสูงกว่าเพื่อนโหม่งลูกโยนเข้ามาของเวส บราวน์ เต็มศีรษะ แต่ลูกหลุดออกนอกกรอบไป
นักเตะชาวโสมก็ได้โอกาสต่อมาอีกครั้ง คราวรนี้ทำให้ผู้รักษาประตูของชาร์ลตัน ต้องออกแรงเซฟหลังจากที่หลุดผ่านผ่านกองหลังมาได้แล้ว
จากนั้นอีกสองนาทีแมนฯ ยูไนเต็ด น่าจะได้ประตูอย่างมากเมื่อคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ถูกลุค ยัง รวบล้มหน้ากรอบเขตโทษ ไรอัน กิ๊กส์ รับอาสาเตะลูกฟรีคิก ลูกลอยไปชนเสาด้านใน แต่กลับเด้งออกไปหน้าตาเฉย
แต่ต่อมากองหลังแมนฯ ยูไนเต็ด เกือบทำพลาดครั้งใหญ่หลวงเมื่อเอฟร่า, ริโอ และสุดท้ายซิลแวสตร์ ต่างก็ปล่อยให้ดาร์เรน อัมโบรส หลุดเข้ามา แต่ก็ยังดีที่ถูกสกัดออกไปเป็นลูกเตะมุม
เกมยังคงพลิกกันไปพลิกกันมาอยู่อย่างต่อเนื่อง ไม่มีฝ่ายใดที่ทำได้ดีอย่างโดดเด่นมากนัก
ก่อนหมดครึ่งแรก 3 นาที กิ๊กส์ ได้โอกาสทำประตูอีกครั้ง แต่คราวนี้ถูกสก็อตต์ คาร์สัน เซฟไปได้
โอกาสอีกครั้งของแมนฯ ยูไนเต็ด ก็มาถึง เมื่อซาฮา ส่งบอลให้โรนัลโด้ ที่ระยะ 20 หลาหน้าประตู แต่ทว่าลูกยิงของโรนัลโด้ ที่กำลังจะเสียบใต้คานก็ลอยสูงไปนิด ชนคานเข้าอย่างจัง
จากนั้นโรนัลโด้ ก็เกือบทำประตูขึ้นนำได้อีกเมื่อขึ้นโขกลูกเตะมุมของกิ๊กส์ข้ามคานไป ทำให้เกมครั้งแรกจบลงด้วยการเสมอกันอยู่ 0-0
เริ่มครึ่งหลังได้ไม่นาน แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้โอกาสสวนกลับเร็วทางโรนัลโด้ ลูกโยนของเขาน่าจะไม่มีอะไรเนื่องจากโดนโจนาธาน ฟอร์จูน โขกทิ้งไปได้ แต่ทว่าลุกมันไปเข้าทางของดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ ที่ใครหลายคนเกลียดหนักหนาที่ระยะ 10 หลา ได้โอกาสล็อกหลบ 2 จังหวะก่อนที่จะซัดเต็มข้อเข้าไปเป็นประตูแรกนับจากที่เขาโหม่งลูกพิสดารเอาชนะเชลซี ไปได้เมื่อฤดูกาลที่แล้ว แมนฯ ยูไนเต็ดนำ 1-0
โรนัลโด้ เกือบจะเป็นคนส่งให้เพื่อนลูกที่สอง แต่คราวนี้ลูกยิงของพาร์ค ถูกปฏิเสธโดยสก็อตต์ คาร์สัน ไปเสียก่อน
เกมผ่านไป 1 ชั่วโมง ชาร์ลตัน เกือบจะได้ลูกจุดโทษจากการที่เวส บราวน์ เอามือไปขัดขวางการโหม่งลูกเตะมุม แต่ผู้ตัดสินโบกมือให้เกมดำเนินต่อไป
ต่อมาเป็นโอกาสของทางแมนฯ ยูไนเต็ด บ้างจากลูกเตะมุมอีกครั้งของกิ๊กส์ คราวนี้ซาฮา เกือบจะทำประตูได้แต่ถูกอัมโบรส สกัดออกไปจากเส้นประตูได้หวุดหวิด
แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงกดดันอย่างต่อเนื่อง แต่เกือบจะถูกตีเสมอในนาทีที่ 72 จากจังหวะยิงของมาร์คัส เบนท์
นาทีที่ 77 ไมเคิล คาร์ริค ได้โอกาสลงสนามนัดแรกของเขาในพรีเมียร์ ลีก แล้วเมื่อถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทนพาร์ค จีซุง แล้วมาเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางแทนที่กิกส์ ที่โยกไปเล่นเป็นปีกซ้าย หลังจากนั้นแค่ 2 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้ประตูนำห่าง 2-0
บราวน์เปิดบอลมาจากทางด้านซ้ายถึงซาฮา กองหน้าชาวฝรั่งเศสพักอกแล้วโยกตัวหลบกองหลังชาร์ลตัน ยิงประตูจากระยะ 20 หลาเสียบเสาสองได้สำเร็จ เป็นประตูที่ 2 จากการเล่น 2 นัดของดาวเตะผู้นี้ และจังหวะยังเป็นจังหวะสุดท้ายของกิ๊กส์ ในเกมเมื่อถูกเปลี่ยนตัวออกโดยมีซูเปอร์ซับอย่างโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ลงมาแทน
โซลชาร์ ถูกปฏิเสธการยิงประตูแรกนับตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2003 เมื่อคาร์สัน วิ่งเข้ามาเซฟลูกยิงของเขาที่ได้โอกาสมาจากการทำเกมที่ยอดเยี่ยมของโรนัลโด้ และคาร์ริค
แต่อะไรก็ไม่สามารถขัดคนที่จะประสบความสำเร็จได้ เมื่อสามารถทำประตูได้ในที่สุดในนาทีสุดท้ายของเกม
จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะไปได้ 3-0 เก็บ 6 แต้มเต็มจาก 2 นัดแรกของฤดูกาลได้และยังมีผลต่างประตูได้เสียถึง 7 ลูก เป็นการเริ่มต้นฤดูกาลที่สวยงามของทีม (บรรยายเกมโดย boom)
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
ชาร์ลตัน แอธเลติก
สก็อตต์ คาร์สัน 38
ทาลาล เอล คาร์คูรี่ 15
โจนาธาน ฟอร์จูน 24
เฮอร์มัน ไฮร์ดาร์สสัน 3 ( น. 33)
ลุค ยัง 2
ดาร์เรน อัมโบรส 11
แอมดี้ เฟย์ 4
แมทธิว ฮอลแลนด์ 8
ไบรอัน ฮิวจ์ส 20
ดาร์เรน เบนท์ 10
จิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลแบงค์ 18
สำรอง
โธมัส มิห์เร่ 36
ราดอสติน คิชิเชฟ 6
มาคัส เบนท์ 7 น. 65 จิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลแบงค์ 18
เควิน ลิสบี้ 12
เดนนิส รอมเมอดาห์ล 19 น. 82 แอมดี้ เฟย์ 4
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 1
เวส บราวน์ 6 ( น. 38)
ปาทริซ เอฟร่า 3
ริโอ เฟอร์ดินานด์ 5
จอห์น โอเชีย 22
มิเกล ซิลแวสตร์ 27
ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 24 ( น. 49)
ไรอัน กิ๊กส์ 11
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 7
พาร์ค จีซุง 13
หลุยส์ ซาฮา 9 ( น. 80)
สำรอง
โทมัสซ์ คุสซ์แซค 29
ไมเคิล คาร์ริค 16 น. 77 พาร์ค จีซุง 13
คีแรน ริชาร์ดสัน 23
จูเซ็ปเป้ รอสซี่ 19
โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ 20 ( น. 90) น. 82 ไรอัน กิ๊กส์ 11
สถิติของเกม
ชาร์ลตัน แอธเลติก ประตู 0, ยิงตรงกรอบ 9, ยิงหลุดกรอบ 2, ฟาวล์ 14, เตะมุม 4, ใบเหลือง 1, การครองบอล 43%
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประตู 3, ยิงตรงกรอบ 23, ยิงหลุดกรอบ 11, ฟาวล์ 12, เตะมุม 11, ใบเหลือง 1, การครองบอล 57%
คะแนนความสามารถ
ชาร์ลตัน แอธเลติก สก็อตต์ คาร์สัน 7, ลุค ยัง 5, ทาลาล เอล คาร์คูรี่ 5, โจนาธาน ฟอร์จูน 4, เฮอร์มัน ไฮร์ดาร์สสัน 5, ไบรอัน ฮิวจ์ส 5, แมทธิว ฮอลแลนด์ 5, แอมดี้ เฟย์ 5, ดาร์เรน อัมโบรส 6, จิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลแบงค์ 5, ดาร์เรน เบนท์ 5, มาคัส เบนท์ (สำรอง) 6, เดนนิส รอมเมอดาห์ล (สำรอง) 5
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 6, เวส บราวน์ 6, ริโอ เฟอร์ดินานด์ 7, มิเกล ซิลแวสตร์ 5, ปาทริซ เอฟร่า 6, จอห์น โอเชีย 6, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 7, ไรอัน กิ๊กส์ 8, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 7, พาร์ค จีซุง 6, หลุยส์ ซาฮา 7, ไมเคิล คาร์ริค (สำรอง) 6, โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ (สำรอง) 7
Por