ตอนจบของเกม Final Fantasy VII Rebirth สร้างความสับสนให้กับแฟนเกมได้ไม่น้อย ทำให้ในตอนนี้มีแฟนเกมหลาย ๆ คนออกมาตั้งทฤษฎีตอนจบให้เราได้ติดตามกันมากมาย โดยล่าสุดผู้เขียนได้พบกับหนึ่งในการวิเคราะห์ที่น่าสนใจ และผู้เขียนเองก็ไม่พลาดที่จะนำมาให้ทุกคนได้ติดตามกันครับคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ในกลุ่มเฟซบุ๊ก Final Fantasy VII Remake – Rebirth ได้มีผู้เล่นเกมที่ชื่อว่า Joaquim Guedes ได้ออกมาแชร์ทฤษฎีเกี่ยวกับเรื่องราวภายในเกม Final Fantasy VII Rebirth ซึ่งทฤษฎีของเขานั้นจะแบ่งโลกของเกมนี้ออกเป็นทั้งหมด 5 ใบด้วยกัน โดยเขาได้นำ Stamp Dog เป็นตัวตั้ง และเรื่องราวที่เกิดขึ้นโดยที่มี Zack เป็นกุญแจหลักมาประกอบการวิเคราะห์
“ใน Final Fantasy VII Remake/Rebirth มีโลกที่แตกต่างกัน 5 โลก โดยแต่ละโลกจะถูกบ่งบอกด้วย “สุนัขพันธุ์ต่าง ๆ ของ Stamp (มาสคอทของ Shinra)” คุณ Guedes ระบุ “เราจะเห็นสุนัขพันธุ์ต่างๆ เหล่านี้อยู่ตามกำแพง ป้ายโฆษณา กล่องซีเรียล ขนมแท่ง ฯลฯ ทั้งแบบเป็นตุ๊กตา (เช่น ตุ๊กตาที่จอนนี่ถือ) หรือแบบเป็นฟิกเกอร์ (เช่น ข้างกิ๊บติดผม) ซึ่งสุนัขพันธุ์ต่างๆ เหล่านี้ จะบ่งบอกว่าเราอยู่ใน “โลก” ใด ตัวอย่างเช่น ฉากเปิดเกมที่ Zack ยังมีชีวิตแบก Cloud ที่หมดสติอยู่ ถ้าสังเกตดี ๆ เราจะเห็นสุนัขพันธุ์นี้บนป้ายโฆษณา และหลังจากนั้น เราจะเห็นสุนัขพันธุ์เดียวกันนี้อยู่บนกล่องซีเรียล วางอยู่บนโต๊ะในห้องนั่งเล่นของบ้าน Elmyra
โลกทั้ง 5 ภายในเกม Final Fantasy VII Rebirth ตามการคาดเดาของคุณ Guedes
โลกใบที่ 1 – โลกของ Yorkshire Terrier
โลกที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่ Zack ไม่ตาย จากการต่อสู้กับทหาร Shinra ในตอนจบของภาค Remake ในโลกนี้ Zack สามารถพา Cloud ที่หมดสติอยู่ไปยัง Midgar และช่วยเหลือ Aerith ที่หมดสติอยู่บนเฮลิคอปเตอร์ โดยโลกใบนี้สมาชิกกลุ่ม Avalanche คนอื่น ๆ (Tifa, Barrett) เสียชีวิตหมด รวมถึง Red XIII ที่เสียชีวิตขณะ Zack ช่วยเหลือ Aerith ยกเว้น Biggs ซึ่งต่อมาได้เข้าร่วมกับ Zack โดย Zack ได้พา Aerith ไปบ้านของ Elmyra และเขาได้พบกับ Marlene ที่บอกว่าถ้า Aerith ฟื้นขึ้นมาจะถูก Sephiroth ฆ่า เว้นแต่ Zack จะปลุก Cloud ให้ฟื้นจากอาการโคม่าได้ทัน โดยเธอได้บอกว่า Aerith ได้เล่าเรื่องนี้ให้เธอฟัง นอกจากนี้ Marlene ได้บอกอีกว่า Aerith ชอบ Cloud หลังจากนั้น Zack พบว่าตัวเองต้องตัดสินใจระหว่างการไปที่ห้องทดลองของ Hojo เพื่อหาทางรักษา Cloud หรือไปช่วย Biggs ที่กำลังถูก Shinra โจมตี ไม่ว่าจะเลือกเส้นทางไหน ก็จะส่งผลให้เกิดเส้นเวลาใหม่ 2 เส้นทาง (เส้นทางบังคับ)
โลกใบที่ 2 – โลกของ Pug
โลกที่เกิดจากการตัดสินใจของ Zack ที่จะไปช่วย Biggs โดยเขาพบว่า Biggs กำลังวางแผนจะระเบิดเตาปฏิกรณ์ของ Shinra แต่ทหารชินระมาถึงที่นั่นและฆ่า Biggs และ Zack ต่อสู้กับพวกมันและรอดชีวิตมาได้ เปิดทางไปสู่อีกโลกหนึ่ง
โลกใบที่ 3 – โลกของ Pomeranian
เส้นเวลาที่เกิดหลังจากการตัดสินใจของ Zack ที่จะไปห้องทดลองของ Hojo เพื่อหาทางรักษา Cloud โลกนี้เรียกว่า “วันสิ้นโลก” ในโลกนี้ Aerith พา Cloud ที่หมดสติไปหลบซ่อนเพื่อไม่ให้ Sephiroth ตามเจอ เธอปลุก Cloud ให้ฟื้น และชี้ให้เขาดู “รอยร้าวบนท้องฟ้า” สัญลักษณ์ของอุกกาบาตที่กำลังจะตกลงมา ซึ่งหมายถึงวันสิ้นโลก ผู้คนในโลกนี้ยอมรับชะตากรรมความตายของพวกเขาแล้ว แม้แต่ NPC ก็พูดถึงเรื่องนี้ “ถ้าเพียงแต่เรามีเวลามากกว่านี้” “ใช้เวลากับคนที่คุณรักให้คุ้มค่า” ในโลกนี้ Cloud และ Aerith มีฉากเดทที่โบสถ์ (สถานที่ที่พวกเขาเรียกว่า ของเรา) ซึ่งเป็นฉากบังคับให้ Aerith สารภาพรักกับ Cloud และพวกเขากอดกัน (แต่จริง ๆ แล้ว Aerith แค่หวนนึกถึงวันที่เธอเคยเดทกับ Zack) นอกจากนี้ Aerith ยังมอบ White Materia ให้กับ Cloud และผลักดันเขาไปยังเส้นเวลาหลัก (โลกของ Beegle) ขณะเดินทางไปยังอีกโลก Cloud เห็น Sephiroth เข้าไปในโบสถ์และฆ่า Aerith หลังจากนั้น Cloud ได้เจอกับ Aerith อีกครั้งในป่าแห่งการหลับใหล และเขาสังเกตว่า Sephiroth ไม่ได้ฆ่าเธอที่โบสถ์ เขาจึงคืน White Materia ให้กับเธอ Aerith บอกว่าเธอไม่ต้องการมันอีกต่อไป และมอบ White Materia ที่ “ว่างเปล่า” ให้กับ Cloud เธอประกาศว่าจะหยุดยั้ง Sephiroth และวิ่งไปยังเมือง Forgotten Capital โดยมี Cloud วิ่งตามเธอไป แต่ Whisper ขัดขวางเขา และเขาก็หมดสติไป
โลกใบที่ 4 – โลกของ Shiba
เส้นเวลาที่เกิดจากการที่ Zack รอดชีวิตจากทหาร Shinra ที่ฆ่า Biggs โดย Zack พบว่าตัวเองอยู่หน้าโบสถ์ของ Aerith ขณะที่ Aerith และ Cloud กำลังเดทกันอยู่ข้างใน เขาพยายามขวางไม่ให้ Sephiroth เข้าโบสถ์ แต่ไม่สำเร็จ Sephiroth ส่งเขาไปยังอีกมิติ (ฉากจอขาว) ในมิติแห่งนี้ เขาพเนจรไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งสามารถติดต่อกับ Cloud จากโลกหลักได้ และต่อสู้เคียงข้าง Cloud เพื่อสู้กับ Sephiroth ชั่วคราว ในโลกนี้ Aerith จากโลก Pomeranian ก็ปรากฏตัวขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับ Sephiroth เคียงข้าง Cloud ด้วย ในตอนท้าย พวกเขาทั้งสองยื่นมือออกไปหากัน เราทราบว่าเธอมาจากโลก Pomeranian เพราะ Sephiroth พูดว่า “ฉันประเมินเธอต่ำไป” โดย Aerith จากโลก Pomeranian เป็นคนที่รอดชีวิตจาก Sephiroth ที่โบสถ์ และหยุดยั้งอุกกาบาต (วันสิ้นโลก) ได้ หลังจากใช้ White Materia ต่อสู้กับเขา ตามที่กล่าวไปก่อนหน้านี้
โลกใบที่ 5 – โลกของ Beegle
เป็นเส้นเวลาหลักที่เราเล่นมาตั้งแต่ภาค Remake เหตุการณ์ของเนื้อเรื่องหลักเกิดขึ้นที่นี่ Cloud ที่ตกลงมาจากหน้าผา กอด Aerith หลังจากมอบ Black Materia ให้กับ Sephiroth แล้วหมดสติไป เขาฟื้นขึ้นมาเป็น Cloud ในโลก Pomeranian และถูก “ผลักดันโดย Aerith” กลับมายังโลกหลัก โดยที่โบสถ์ ณ ระหว่างฉากเดทที่บังคับ ในโลกนี้ “โชคชะตา” ของ Aerith เกิดขึ้นพร้อม ๆ กับโลก Pomeranian (ฉากที่แสดงให้เห็นว่า Cloud ช่วย Aerith ไว้ ซึ่งยังไม่เคยปรากฏในเกมมาก่อน) ควบคู่ไปกับฉากที่ Aerith เสียชีวิตในโลกหลัก เราสามารถแยกความแตกต่างระหว่างฉากของสองเส้นเวลานี้ได้จากความสว่างของพื้น โดยในโลก Pomeranian จะเป็นฉากที่คลาวด์อยู่กับ Aerith สองคน พื้นจะมีสีสว่าง ส่วนในโลกหลัก จะเป็นฉากที่กลุ่มเพื่อน ๆ อยู่รายล้อม Aerith พื้นจะมีสีทึมกว่า
โดยทางผู้เขียนทฤษฎีนี้ได้สรุปไว้สั้น ๆ ว่า Cloud ไม่สามารถช่วย Aerith ในไทม์ไลน์หลักได้ แต่สามารถช่วยเธอไว้ได้ในโลก Pomeranian นั่นเอง อย่างไรก็ตามก็ยังมีผู้เล่นหลาย ๆ คนเข้ามาพูดคุย และแสดงความเห็นทั้งสนับสนุน และเติมเต็มทฤษฎีรวมไปถึงแย้งในบางมุมด้วย ซึ่งความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว… นั่นก็คือผู้พัฒนาเกมเท่านั้นที่รู้ ซึ่งเราก็ต้องมาติดตามกันต่อไปในภาคสุดท้ายครับ
ผู้อ่านล่ะครับมีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับทฤษฎีนี้มาคอมเมนต์พูดคุยกันได้นะครับ ในขณะเดียวกัน Final Fantasy VII Rebirth เกมภาคต่อของ Final Fantasy VII Remake ที่วางจำหน่ายตั้งแต่ 29 ก.พ. 2024 บน PlayStation 5 ผู้เล่นจะได้ติดตามการผจญภัยของ Cloud และผองเพื่อนเพื่อตามล่า Sephiroth บนแผนที่ที่มีสเกลใหญ่ขึ้น พร้อมสำรวจประวัติเบื้องหลังของตัวละครต่าง ๆ เกมมีทั้งหมด 2 แผ่น เตรียมตัวให้พร้อม เพราะว่าการผจญภัยในครั้งนี้จะยิ่งใหญ่กว่าเดิมแน่นอน!
FINAL FANTASY VII REBIRTH